เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสยามประเทศนั่นเองที่ทำให้โปรเจคต์ในเรื่องของการคิดค้นและแต่งเพลงชาติไทยให้เป็นแบบสากลหรือเป็นทางการเริ่มผุดเป็นรูปเป็นร่างอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยโปรเจคต์แต่งเพลงชาติไทยนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปี พ.ศ.๒๔๗๕ นั่นเอง โดยกล่าวกันว่า การแต่งเพลงชาติไทยนี้ต้องมีการเข้าเสนอในรายงานการประชุมด้วยว่าในหัวข้อการประชุมของ สส. หรือสภาผู้แทนราษฎรในยุคนั้นต้องมีหัวข้อการประชุมเกี่ยวกับการแต่งเพลงชาติไทยในสมัยที่ ๑ พ.ศ. ๒๔๗๖ ต้องมีการเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ เราต้องยกเครดิตให้กับฝีมือการประพันธ์ของ ขุนวิจิตรมาตรา ที่เริ่มสตาร์ทในการแต่งเนื้อเพลงชาติไทยในปีพ.ศ. ๒๔๗๕ กันเลยทีเดียว โดยมีการระบุไว้ว่า เป็นเพราะท่านขุนผู้นี้ ที่ทำให้การทำเพลงชาตินั้นเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก แล้วใครบ้างที่จะคิดว่า เพลงนี้จะได้ใช้จริง เอาเข้าจริงแล้วก็ยังไม่ใช่ว่าจะได้ใช้ เพราะยังมีเรื่องที่จะต้องปรับแต่งหรือปรับปรุงเนื้อร้อง ทำนองและแรงบันดาลใจอีกเยอะเลยทีเดียวเช่นกัน แต่ทว่า ก็มีเหตุดราม่าเกิดขึ้นเหมือนกัน เพราะเพลงชาติไทยเวอร์ชั่นนี้นั้นดันถูกห้ามใช้เนื้อร้องซะอย่างนั้นเหตุผลก็เป็นเพราะว่า ดันมีท่อนร้องคำว่า “ยึดอำนาจ” ยัดไว้ในเนื้อเพลงเข้าให้เต็มๆ แล้วพอเป็นซะแบบนี้นั้น ก็เลยส่งผลให้เพลงเวอร์ชั่นนี้โดนแบนในการใช้งาน และไม่ต้องการปลูกฝังเด็กนักเรียนและเยาวชนสยามประเทศในเวลานั้นในเรื่องของการรัฐประหารหรือการยึดอำนาจ จึงสั่งห้ามใช้ โปรเจคต์การร้องเพลงหน้าเสาธงในทุกเช้าก็เลยต้องค่อยๆเลื่อนการใช้งานไปก่อนนั่นเอง กล่าวกันว่าเป็นเพราะดันมีแทรกคำร้องคำว่า “ยึดอำนาจ” เข้าไปแท้ๆ...